Menu
การท่องเที่ยวในเมืองเหนือของคนส่วนใหญ่ มักจะเน้นการไปรับสภาพอากาศเย็น ๆ เพราะว่ามันให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
แต่การเลือกทางนั้นเพียงอย่างเดียว อาจทำให้เราไม่มีโอกาสในการมองเห็นอะไรใหม่ ๆ
ดังนั้น เราลองไป “ตามรอยวิถีพื้นบ้านที่โฮงเจ้าฟองคำ” ใน “จ. น่าน” กันดีกว่า
ขอบคุณภาพจาก : unseentourthailand
ความหมายของ “โฮง”
หากเป็นการพูดคุยทั่วไปอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ถ้าเป็นเมืองเหนือ ความหมายของ “โฮง” ก็คือ
บ้านพักของเจ้านายในสมัยก่อน ซึ่งมีการสร้างมาเป็นร้อยปี โดยตัวบ้านจะมีลักษณะเป็น เรือนไม้สัก
ที่มีการแบ่งห้องตามการใช้งานเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน แล้วก็มีการยกใต้ถุนสูงตามสมัย
ห้องหน้าโฮง
เมื่อเข้ามาถึงในห้องแรกจะเป็น “ห้องหน้าโฮง” ที่เป็นห้องที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เพราะว่าห้องนี้จะมีหิ้งพระ
ที่เอาไว้กราบไหว้บูชา และการเก็บโถอัฐิพร้อมกับภาพของบรรพบุรุษ หากมีใครที่ทำผิดไม่ว่าเป็นเรื่องใดก็ตาม
จะต้องมาคุยกันในนี้ เนื่องจากเชื่อกันว่าคนกระทำผิดจะไม่กล้าโกหกต่อหน้าบรรพบุรุษ
ขอบคุณภาพจาก : unseentourthailand
ครัวไฟ
นอกจากการอยู่อาศัยแล้ว คนในสมัยก่อนก็จะมีการประกอบอาหารเอง ไม่ได้ซื้อกินตามร้านเหมือนกับสมัยนี้
ดังนั้น ตัวบ้านจึงได้มีการแยก “ครัวไฟ” ออกมาต่างหาก เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟ
และคนสมัยก่อนก็ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของการทำครัวด้วย แต่มันก็อาจเป็นเพียงกุศโลบายเท่านั้น
ห้องเครื่องเงิน
ส่วน “ห้องเครื่องเงิน” ในตอนแรกจะเป็นส่วนของ ยุ้งข้าว ที่ภายหลังถูกเปลี่ยนมาเป็นการจัดแสดง
เครื่องเงิน แบบต่าง ๆ ตามชื่อของห้อง ซึ่งมันเป็นสมบัติประจำตระกูล ที่เราสามารถเดินทางมาชมได้
และด้วยความที่มันเป็นของอนุรักษ์ ก็ไม่ควรไปหยิบจับอย่างเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้ของเสียหายได้
ขอบคุณภาพจาก : unseentourthailand
การทอผ้าพื้นเมือง
ซึ่ง “การทอผ้าพื้นเมือง” น่าจะเป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัด เพราะที่นี่จะมีการสาธิตให้ดูทุกขั้นตอน
โดยผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจะอยู่ในชื่อที่ใช้ความเป็นไทยอย่าง “น่าน เน้อเจ้า” และผ้าแต่ละลายที่ออกมา
ล้วนสวยงามตามแบบฉบับโบราณ โดยเฉพาะ ผ้าซิ่นลายน้ำไหล ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้มีการออกแบบ ผ้าซิ่นลายน้ำไหลหยดน้ำ ที่ดูทันสมัยมากขึ้น
แต่ก็มีความยากมาขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะว่ามันไม่มีรูปแบบที่ตายตัว กว่าจะผลิตออกมาได้แต่ละชิ้น
ต้องใช้เวลานับเดือน ส่วน ผ้าตาโก้ง จะเน้นใช้เป็นผ้าขาวม้า หรือผ้าห่ม และ ผ้าทอลายบ่อสวก ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
ที่มา : unseentourthailand
นักเขียน : Benjawirar