ท่ามกลางความโหดร้ายบนโลกใบนี้ มันก็ยังมีสิ่งสวยงามที่ช่วยจรรโลงใจได้อยู่หลายอย่าง
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมไปถึงต้นไม้ หรือดอกไม้ ที่สามารถนำมาประดับตกแต่งสถานที่ให้ดูร่มรื่น สบายตา
แต่ถ้าอยากรู้ว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง “สวนพฤกษศาสตร์น่ารู้บนแม่ริม เชียงใหม่” มีคำตอบรอให้ไปค้นพบอยู่เสมอ
ขอบคุณภาพจาก : travelgogogo
1. “Glasshouse Complex” หรือ อาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ
มีการสร้างโรงเรือนด้วยการเลียนแบบธรรมชาติสำหรับ พันธุ์ไม้หายาก กับ พันธุ์ไม้ที่ใกล้สูญพันธุ์
และในโรงเรือนนี้เองก็ยังมีจุดเด่นอย่าง นาฬิกาดอกไม้เรืองแสง ขนาดใหญ่ด้วย
2. “Tropical Rainforests” หรือ เรือนป่าดิบชื้น มีการสร้างโรงเรือนในลักษณะ
ที่คล้ายกับการชมธรรมชาติ เพราะเราจะเห็นทั้งถ้ำกับน้ำตกที่สามารถเดินถึงกันได้ แล้วก็ยังมี การพ่นไอน้ำ
เพื่อจำลองสถานที่ให้เหมือนจริงสำหรับ พืชเฉพาะถิ่น กับ พืชหายากทางภาคใต้
3. “Water Plants” หรือ เรือนไม้น้ำ เป็นโรงเรือนที่ใช้ในการจัดแสดง ดอกบัว สายพันธุ์ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย หรือว่าสายพันธุ์ที่มาจากต่างประเทศก็มี
และความพิเศษที่ธรรมชาติมอบให้ ดอกบัว บางชนิดก็คือ สามารถบานได้อย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณภาพจาก : travelgogogo
4. “Orchids and Ferns” หรือ เรือนกล้วยไม้ และต้นเฟิร์น ซึ่งบอกได้เลยว่า
กล้วยไม้ บางสายพันธุ์สามารถนำไปแปรรูปให้กลายเป็นของกินได้
ส่วน ต้นเฟิร์น จะอยู่ติดกับพื้นดิน เมื่อดูรวม ๆ กันแล้วก็ถือว่าการจัดแสดงในส่วนนี้เข้ากันเป็นอย่างดี
5. “Arid Plants” หรือ เรือนพืชทนแล้ง ถือว่าเป็นความพิเศษที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มา
เพราะว่าพืชต่าง ๆ สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่มีน้ำได้ เอาให้เห็นภาพ
ก็ให้ลองนึกถึง กระบองเพชร ที่สามารถยืนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายได้โดยไม่เป็นอะไร
6. “Carnivorous Plants” หรือ เรือนพืชกินแมลง เป็นอีกหนึ่งโรงเรือนที่มีความน่าสนใจ
เพราะว่าเราจะเห็นวิธีการจับแมลงของพืชชนิดต่าง ๆ เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง
ที่มันสามารถหลอกให้แมลงเข้ามาติดกับได้
ขอบคุณภาพจาก : travelgogogo
7. “Medicinal plants” หรือ เรือนพืชสมุนไพร ภายในโรงเรือนนี้
มีการจัดแสดง สมุนไพรไทย มากมาย ซึ่งก็เป็นไปได้ว่ามีแบบที่เราไม่รู้จักด้วย
ถ้าใครอยากจะลองศึกษาหาข้อมูลเหล่านี้ ก็สามารถอ่านจากป้ายที่ติดไว้ด้านหน้าได้เลย
8. “Bromeliads” หรือ เรือนสับปะรดสี เป็นการจัดแสดง สับปะรด ทุกสายพันธุ์
และที่มันมีชื่อเรียกแบบนี้ก็น่าจะมาจากสีของตัวมันเอง ที่บอกเลยว่าเห็นแล้วต้องสะดุดตา
จึงทำให้คนที่นำสายพันธุ์ของมันไปใช้ต่อ แต่ไม่ใช่การปลูกเอาไว้กินแต่นำไปตกแต่งต่างหาก
ที่มา : eatingoutmap
นักเขียน : Benjawirar