Banner Travelgogogo

ไปสีชังทั้งที ต้องแวะที่นี่เลย !

การเดินทาง เพื่อไปปลดปล่อยความไม่สบายใจทั้งหลาย เป็นเรื่องที่ควรทำแม้ว่าจะนาน ๆ ทีก็ตาม

แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องสะสมความเครียดไว้กับตัวมาก ๆ จนทำให้เกิดเรื่องที่น่าเศร้าขึ้น และถ้าใคร

ที่พอจะมีเวลาว่างสักหน่อย งั้นเราไปเที่ยวด้วยกันผ่านทางหน้าจอกับเรื่อง “ไปสีชังทั้งที ต้องแวะที่นี่เลย !”

ไปสีชังทั้งที ต้องแวะที่นี่เลย !

ขอบคุณภาพจาก : travelgogogo

1. “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ในถ้ำบนเขาสูง ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นเพียง

หินงอก หินย้อยธรรมดาโดยการเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อบรรดาพ่อค้ามาเห็นก็พบว่าหินงอก หินย้อยลักษณะนี้

มีความต้องกันตามตำรามงคลทุกอย่าง จึงได้พากันมากราบไหว้ตั้งแต่ตอนนั้นตราบจนถึงปัจจุบัน

และไม่ว่าใครที่มาถึงต่างก็ต้องมาแวะสักการะ เพราะเชื่อกันว่ามักจะประสบผลสำเร็จ แล้วผู้ที่เกิดปีชง

ก็ยังสามารถทิ้งสิ่งไม่ดีไว้ที่นี่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ อย่างเช่น ศาลเจ้าพ่อเสือ, ศาลแปดเซียน,

ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย ที่เลือกสักการะได้ตามอัธยาศัย แต่ก่อนจะถึงต้องผ่านบันไดสูง ๆ ไปให้ได้ก่อน

ไปสีชังทั้งที ต้องแวะที่นี่เลย !

ขอบคุณภาพจาก : travelgogogo

2. “ศาลเจ้าแม่กวนอิม” เป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถเดินขึ้นไปสักการะได้เช่นกัน

โดยที่ตั้งจะอยู่ใกล้เคียงกับ “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” แต่ในส่วนนี้จะไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ปนอยู่

ส่วนใหญ่คนที่จะไปขอพรที่นี่ก็จะเน้นเรื่องความรัก เพราะมีความเชื่อกันว่า “เจ้าแม่กวนอิม” ประทานพรเรื่องนี้โดยเฉพาะ

หลังจากที่สักการะสมความปรารถนาแล้ว เราสามารถยืนดูวิวจากมุมด้านบนได้แบบกว้าง ๆ

เพราะเราสามารถมองเห็นไปถึงทะเล ที่สำคัญเลยมันเป็นจุดที่ถ่ายรูปได้สวย ถ้าใครที่อยากเก็บความประทับใจกลับบ้าน

ก็สามารถไปโพสท่า จัดแสงบนวิวเขาได้เลย แต่จะสวยหรือไม่อยู่ที่ฝีมือคนถ่ายเป็นหลัก

ไปสีชังทั้งที ต้องแวะที่นี่เลย !

ขอบคุณภาพจาก : travelgogogo

3. “พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน” เป็นพระราชวังบนเกาะที่มีอาณาเขตกว้างขวาง แล้วก็มีความสวยงามมาก

เพราะเป็นที่แปรพระราชฐานของรัชกาลที่ 5 และราชวงศ์ทั้งหลาย โดยสถานที่นี้ถูกตั้งชื่อตามพระนามของ

พระโอรสในรัชกาลที่ 5 แต่ภายหลังก็ถูกปรับเปลี่ยนมาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

ซึ่งถ้าใครที่ชอบการเดินสำรวจแบบเงียบ ๆ ขอแนะนำให้มาที่ “พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน” ได้เลย

รับรองว่าเดินเพลิน ๆ ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือถ้าอยากได้ฉากหลังสวย ๆ ก็ให้ไปยืนบน สะพานอัษฎางค์

ที่ทอดลงไปในทะเล เวลาที่ถ่ายรูปออกมาจะทำให้เห็นเลยว่า ความกลมกลืนของภาพมันสวยขนาดไหน

ที่มา : Benjawirar

นักเขียน : Benjawirar