หากเอ่ยถึง “ทะเลหมอก” สิ่งแรกในความคิดของหลาย ๆ คนต้องพุ่งไปที่ ภูทับเบิก, ภูชีฟ้า
หรือไม่ก็ ดอยอินทนนท์ อย่างแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะแนวเขามันก็ไปในเส้นทางนั้นอยู่แล้ว
แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีอีกจังหวัดหนึ่งที่หาความสวยงามนี้ได้เช่นกัน แถมยังไม่ต้องเดินทางไกลให้เหนื่อยด้วย
ขอบคุณภาพจาก : pantip
ดังนั้น เราก็จะเดินทางไปหา จุดชมวิวสวย ๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือน “ต้องมนตราที่เขาพระยาเดินธง”
ใน “จ. ลพบุรี” และถ้าใครที่อยากไปสัมผัสกับความฟินแบบนี้ก็เตรียมตัวให้พร้อม เพราะอีกไม่นานเรา
ก็จะออกเดินทางไปด้วยกัน แต่ขอความสำรวมสักนิดหนึ่ง แล้วเดี๋ยวจะบอกถึงเหตุผล
สถานที่ตั้ง
ที่ขอความร่วมมือให้เงียบลงเป็นเพราะว่า สถานที่ตั้ง ของ “เขาพระยาเดินธง” ที่อยู่ใน “อ.พัฒนานิคม”
เป็นบริเวณเดียวกับ สถานปฏิบัติธรรม ภายใน วัดหนองนา เพราะฉะนั้นหากใครที่เป็นสายเฮฮา
ต้องลดความสนุกลง โดยเฉพาะถ้ามีการ กางเต็นท์ ค้างแรมก็ต้องเงียบให้มากที่สุดจะได้ไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น
ขอบคุณภาพจาก : pantip
จุดชมวิว
หากไม่มีการค้นพบ หรือว่าเปิดให้เข้าไปท่องเที่ยว ใครจะรู้ว่า “จ. ลพบุรี” ก็มี “ทะเลหมอก”
ที่สวยไม่แพ้กับทางเหนือเหมือนกัน และที่นี่ไม่ต้องเดินขึ้นให้เหนื่อยหอบอีกต่างหาก เพราะว่าสามารถขับรถไปจอด
แล้วเดินเท้าต่อไปอีกเล็กน้อย ก็จะเห็นทั้ง “ทะเลหมอก” และ “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” เป็นของแถมด้วย
ถนนลอยฟ้าลพบุรี
ส่วนการเดินทางถือเป็นอีกที่หนึ่ง ที่มีความสะดวกมาก ๆ เพราะนักท่องเที่ยวสามารถขับไปตาม
เส้นทางลาดยางผ่าน “ถนนลอยฟ้าลพบุรี” เพื่อไปรับธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ และระหว่างเส้นทาง
ก็จะถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ที่ดูแล้วรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย จนแทบจะลืมความเหนื่อยล้าไปหมด
ขอบคุณภาพจาก : pantip
เวลาที่ควรชมทะเลหมอก
จริง ๆ แล้วถ้านักท่องเที่ยวเป็นสายตื่นเช้า ก็คงไม่ต้องบอกเรื่องของ เวลาที่ควรชมทะเลหมอก
เพราะน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าต้องไปช่วงไหน ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่ชัด
แต่ถ้าอยากจะเห็นบรรยากาศสวย ๆ อากาศดี ๆ ก็ควรจะมาในก่อน 7 โมง รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ลานหิน
การเก็บภาพของที่นี่มีความสวยทุกมุม และบน ลานหิน แห่งนี้มี พระพุทธรูป ตั้งอยู่ 2 องค์
หากมองจากจุดนี้ก็จะเห้นความสวยงามในอีกมุมหนึ่ง นอกจาก พระพุทธรูป ที่อยู่ตรงนี้แล้ว
ก็ยังมี พระพุทธรูป อีกองค์หนึ่งที่ประดิษฐานอยู่ในศาลาเล็ก ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสักการะกันด้วย
ที่มา : paiduaykan
นักเขียน : Benjawirar